รีวิว The Shore at Katathani Phuket โรแมนติกรีสอร์ท

แนะนำ The Shore at Katathani

The Shore at Katathani, The Shore Phuket หรือ เดอะ ชอร์ แอท กะตะธานี ที่พักภูเก็ตสไตล์ Pool Villa ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนอยากพาคนรักมาพัก มาเที่ยว มาเก็บประสบการณ์ชิค ๆ แสนหวานที่นี่กันที่โรงแรมแห่งนี้สักครั้ง ซึ่งวันนี้เราได้มารีวิวแล้ว เย่ ขอบอกเลยว่า ดีใจมาก ดีใจที่สุด ทว่าเอมมากับเพื่อนไง ไม่ได้มากับแฟนไง ก็เรายังโสดไง ฮือ น้ำตาไหลไปสิค้าาา

จองโรงแรมผ่าน Agoda

The Shore at Katathani เขาวาง Branding และ Positioning เป็น “True Romantic Resort” หรือ รีสอร์ทสำหรับคู่รักที่แท้ทรู ซึ่งหมายความว่าทั้งบรรยากาศใด ๆ การบริการใด ๆ นั้นต้องสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของการพักผ่อนของคู่รักทุกช่วงอายุและช่วงวัยอย่างแท้จริงครับ และที่ผ่านมาเราก็เชื่อว่าเขาประสบความสำเร็จนะ เพราะโรงแรมภูเก็ตแห่งนี้คือโด่งดังมาก ๆ จนเป็น Wish List ของทุกคนเลย

สารบัญรีวิว The Shore

Quick Fact about The Shore at Katathani

• ทุกห้องพักเป็นลักษณะ Pool Villa ครับ
• โรงแรมตั้งอยู่บนเนินเขา ใช้บริการรถกอล์ฟกด 56 โทรหาฟ้อนเลย
• มี Thai Fine Dining Restaurant ชื่อว่า “ปรัมปรา”
• ตั้งอยู่บนหาดกะตะน้อยซึ่งแชร์ร่วมกับโรงแรมในเครือกะตะธานีทั้งหมด
• Pool ใน Villa คือควบคุมอุณหภูมิ แช่ ๆ น้ำอุ่น ๆ ฟินมากครับ

กะตะน้อย หาดของ The Shore

ที่ตั้งของ The Shore at Katathani คือหาดกะตะน้อยครับ ซึ่งจริง ๆ แอบเหมือนเป็นหาดส่วนตัวของทางโรงแรมเลย เพราะว่าโรงแรมส่วนใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณหาดกะตะน้อยนั้นจะเป็นของเครือของ Katathani เกือบหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น The Shore at Katathani, โรงแรมกะตะธานี หรือแม้จะเป็น The Sea Galleri by Katathani ที่ไม่ได้ติดกับทะเลโดยตรงแต่ก็สามารถขับรถมาที่หาดนี้ได้ไม่ยากเลยครับ

ส่วนที่ตั้งของ The Shore นั้นก็อยู่ที่บริเวณริมหาดกะตะน้อยเลยครับ ซึ่งข้อดีของหาดนี้หากมาถูกฤดูกาลนั้น เอมขอบอกเลยว่าน้ำใสมาก ใสแบบเหมือนเราไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ เกาะสิมิลัน แต่นี่คือบนเกาะภูเก็ตแบบที่เราไม่ต้องนั่งเรือออกไปให้เมาเลยทุกคน ยิ่งช่วงเวลาประมาณสิบโมงถึงก่อนเที่ยงนี่คือแบบผิวน้ำระยิบระยับสวยงามจนเอมเชื่อว่าเพื่อน ๆ จะมีภาพจำใหม่ที่สวยงามของเกาะภูเก็ตเพิ่มเข้าไปในลิสต์อย่างแน่นอนฮะ

ห้องพักของ The Shore at Katathani

ด้วยความที่ที่พักภูเก็ตแห่งนี้เป็นโรงแรมแห่งความรัก ความโรแมนติกและเอมก็ได้เกริ่นไว้แล้วว่าทุกห้องของเดอะ ชอ แอท กะตะธานี เป็นลักษณะ Pool Villa ทุกห้อง มีทั้งหมด 98 หลัง แบ่งเป็นวิลล่าวิวสวน 11 หลัง และที่เหลือวิวทะเลนะครับ อย่างไรก็ตาม เขาก็มีหลากหลาย Room Type ให้เราได้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ส่วนจะมีอะไรบ้างมาดูกัน

• Seaview Pool Villa In Love
• Seaview Pool Villa Romance
• Seaview Pool Villa 
• Partial Seaview Pool Villa
• Pool Villa
• Two-Bedroom Pool Villa

รีวิว Seaview Pool Villa Romance

ในทริปของ The Shore at Katathani ครั้งนี้เอมและผองเพื่อนพักกันที่ Villa ห้อง 8862 และ 8864 ซึ่งเป็นห้อง Seaview Pool Villa Romance พื้นที่ห้องอยู่ที่ 130 ตารางเมตร พร้อมกับวิวแบบ Panoranic Seaview กล่าวคือเห็นวิวกทะเลกะตะน้อยปั๊ว ๆ ปัง ๆ ฟาดกับไปแบบ 180 องศาเพียงแค่แหวกม่าน เปิดกระจกแล้วเดินออกมาที่ระเบียงห้องเท่านั้นนะพี่น้อง

เริ่มกันจากที่หน้า Villa เลยนะครับ สำหรับวิลล่าที่เอมเป็นคนพักนั้นคือหมายเลข 8864 ครับ สำหรับ Design ของวิลล่าจะคล้าย ๆ เรือนไม้บนเนินเขา ตัวอาคารจะเป็นลักษณะสีเขียวที่ล้อมรอบไปด้วยสวนเล็ก ๆ ที่ปลูกไว้รอบ ๆ วิลล่าให้ความรู้สึกสบายตา อบอุ่น บรรยากาศเหมือนกำลังจะได้กลับมาที่บ้านของตัวเองที่ ๆ เรารู้สึกสบายใจมาก ๆ ครับ

พอเข้ามาในห้องเท่านั้นแหล่ะ โอ้โหแม่ นี่ไม่ใช่บ้านกูแล้ววววว ใหญ่โตเกิ๊นนน หรูหราเกิ๊นนน คือมันไม่ใช่ความหรูหราแบบโคมไฟระย้าย้อย อนุเสาวรีย์เทพีเสรีภาพมาตั้งอยู่กลางห้องอะไรแบบนี้ แต่เป็นความเรียบง่ายที่โก้เก๋ แต่ในขณะเดียวกันก็อบอุ่น เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สอยต่าง ๆ ในตัวห้องนั้นเน้นไปทางงานไม้ที่เป็นสีขาว ปลอดโปร่งโล่งสบาย เหมาะสำหรับวันพักผ่อนแห่งความรักจริง ๆ ครับ

ภายในวิลล่าแบ่งสัดส่วนหลัก ๆ ออกเป็นโซนที่วางกระเป๋า ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีเตารีดและโต๊ะเครื่องแป้งพร้อม หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่โซนห้องนอนที่มีผนังไม้ลายฉะลุแบ่งแยกพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งห้องนอนหลักจะติดกับพื้นที่ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบ Bath Tub และ Rain Shower อ่างล่างหน้าสองอ่างแยกซ้ายขวา ซึ่งระหว่างห้องนอนและห้องน้ำนั้นเราสามารถเลื่อนบานเลื่อนไม้มาปิดได้สำหรับทำธุระส่วนตัวใด ๆ ครับ

มาดูห้องน้ำกันหน่อย อ่างอาบน้ำที่ The Shore Katathani นั้นกว้างแบบแช่ได้สองคนเลยนะครับ Amenity ต่าง ๆ ก็ค่อนข้างเยอะ เรียกได้ว่า Full Option แถมมีเกลือสปาสำหรับขัดผิวให้ด้วยอีกต่างหาก (แต่เราไม่ได้ใช้เลย ไม่ได้แช่อ่างด้วย มัวแต่เล่นน้ำข้างนอก มุแง้) สำหรับกลิ่นเครื่องอาบน้ำ เรารู้สึกเหมือนกลิ่นดอกไม้ที่หอมหวานแบบอ่อน ๆ ครับ ฟิวแบบดอกโมกข์อะไรทำนองนั้น (มโนนะ)

มาต่อกันที่ Private Pool ดีกว่า หากถามเราว่า Private เบอร์ไหน มันก็ Private อยู่นะครับ แต่ไม่ใช่แบบ 100% private ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถชื่นชมทัศนียภาพของหาดกะตะน้อยแบบ 180 องศาได้นั่นเอง ซึ่งบริเวณสระว่ายน้ำนั้นก็จะมีศาลาพร้อมกับเตียงนอนแบบปรับได้สำหรับนอนอาบแดด หรือจะนอนอ่านหนังสือใช้เวลาชิล ๆ ที่นี่หรือจะแค่ถ่ายรูปแล้ววิ่งหลบแดดเข้าห้องก็จัดกันไปสิ้!

อ้อ ขอย้ำอีกครั้ง ว่าสระว่ายน้ำที่นี่เขาเป็นสระแบบควบคุมอุณหภูมิด้วยนะ โคตรฟินนนน!

แอดเอม

Floating Breakfast

อีกประสบการณ์หนึ่งซึ่งเราไม่อยากให้พลาดในการมาเข้าพักที่ The Shore at Kathatani ก็คือ Floating Breakfast หรืออาหารเช้าลอยน้ำสำหรับถ่ายรูปนั่นเองครับ (จะมีใครรับประทานอาหารในน้ำจริง ๆ ไหมน้า มันจุกเด้อ อันตรายนะครับ เอาไว้ถ่ายรูปแล้วก็ขึ้นมารับประทานบนบกดี ๆ แบบถูกสุขอนามัยและหลัก anatomy ดีกว่านะ)

มาดูเมนู Floating Breakfast กันดีกว่าฮะ ตามปกติแล้วเราจะต้องสั่งเมนูอาหารเช้าแบบลอยน้ำล่วงหน้าก่อนหนึ่งวัน ซึ่งจะพี่ ๆ ฟ้อนท์เขาจะส่งเมนูมาให้เราเลือกครับ หลักใหญ่ใจความนั้นจะมีตัวเลือกอยู่ประมาณ 5 รายการหลัก ๆ ด้วยกันดังนี้ครับ

• • The Shore Romance: ไข่ดาวรูปหัวใจสองฟอง หมูห่อเบค่อน ราดด้วยซอสพอร์ชินี (ซอสเห็ดประเภทหนึ่ง) ผักขมอมชีส สะเต๊ะมะเขือเทศราชินีกับมันฝรั่ง บวกด้วยวาฟเฟิลกับผลไม้ตามฤดูกาล
  • The Shore Healthy: ออมเล็ทไข่ขาว แซลมอนรมควัน กัวกาโมเลบนขนมปังมัลติเกรน สลัดถั่ว และโยเกิร์ตทาร์ต (สุขภาพดีสุด ๆ)
  • The Shore Phuket Feast: เมนูท้องถิ่นของภูเก็ต เริ่มด้วยขนมจีนน้ำยาปู ไข่ต้ม ห่อหมกปลา หมูปิ้งและของหวานเป็นข้าวเหนียวมะม่วงครับ
  • The Shore Relax: ไข่คน เบค่อน ไส้กรอก มะเขือเทศย่าง ถั่วอบ เสิร์ฟพร้อมกับแพนเค้กกล้วยและผลไม้แช่อิ่ม
  • The Shore VEGETARIAN: เป็นอาหารสายมังสวิรัตครับ อาทิ Egg Benedict กับ อโวคาโด พาร์มิซาน มะเขือม่วง ถั่วอบ และ spring roll สัปปะรด

ซึ่งนอกจากเมนูอาหารหลักดังกล่าว เรายังสามารถเลือกเครื่องดื่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ ทั้งร้อนและเย็น รวมถึงน้ำผลไม้ อาทิ น้ำสัม น้ำสัปปะรด บลา บลา ด้วยนะครับ

ห้องอาหารของ The Shore at Katathani

สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีงามของการเข้าพักที่ The Shore at Katathani คือห้องอาหารที่หลากหลายและเมนูที่หลายหลาก เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าเขามีห้องอาหารอะไรบ้าง

• The Harbor
• Param Para
• The Nest Beach Club
• Romantic In-Villa
• Floating Breaking

อาหารเช้าของ The Shore

เช้าวันใหม่สดใส ซาบซ่า เอมขอพาทุกคนไปชิมอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร The Harbor ซึ่งเป็นห้องอาหารที่บริการอาหารเช้า รวมทั้ง All Day Dining ด้วยครับ และวันนี้เอมจะพาทุกคนมาดูว่ากิตติศัพท์อาหารเช้าที่โรงแรมภูเก็ตแห่งนี้ว่ามีอาหารเยอะมากจะเป็นสิ่งหรือไม่ ซึ่งคำตอบคือจริงเป็นที่สุดเลยครับ

ไลน์อาหารเช้าที่เดอะ ชอร์ แอท กะตะธานี คือ Full Option มาก ไม่ว่าจะเป็น American Breakfast, Salad Bar, Bread and Bakery, Infuse Water, Egg Station (ที่มีไข่ลวกด้วยนะครับ ปลื้ม), Coffee Machine ที่สามารถสั่งกาแฟเย็นได้ (รักสุด) Yogurt Machine (ที่ทำโยเกิร์ต), Pancake Machine, ตู้ขนมไทยและ Station ขนมจีนน้ำยาปูสุดปัง (จริง ๆ คือมีอีกนะฮะ แต่มันเยอะมากจริง ๆ)

มาต่อกันที่ที่นั่ง สำหรับใครที่อยากชมทะเล รับอากาศสดชื่น ๆ ก็จัดกันไปที่ด้านนอกเลย หรือจะนั่งเงียบ ๆ แอบส่องผู้บ่าวด้านในแบบเราก็คงไม่ได้ผิดกฎหมายตราสามดวงแต่อย่างใด อ้อ ในกรณีที่สังเกตว่ามีคนมาพักเยอะก็อย่าลืมเผื่อเวลาอาหารเช้ากันดี ๆ นะครับ เพราะว่าตอนเรียกรถกอล์ฟจากที่พักมาห้องอาหารอาจใช้เวลานานนิดนึงน้า

อย่าลืมเรียกรถเผื่อเวลาช่วงอาหารเช้า Check out และอาหารเย็น เตือนแล้วนะ

แอดเอม

อาหารกลางวันของ The Shore

สำหรับสถานที่ที่เราไปรับประทานอาหารกลางวันของ The Shore Phuket ก็คือที่ห้องอาหาร The Harbor เช่นกันนะครับ โดยตัวเลือกหลัก ๆ ในเมนูอาหารกลางวันก็มีทั้ง Appetizers and Salads, Burgers & Sandwiches, Pasta อาหารไทย และของหวานครับ

มาเริ่มจานแรกที่อาหารของชาวเวนิชกันสักหน่อยกับ Beef Tenderloin Carpaccio หรือคาร์ปัชโชเนื้อสันในครับ เนื้อสันในแล่บาง ๆ ราดด้วยซอส Cirpriani น้ำมะนาว เครื่องเทศน์ที่มี่กลิ่นหอม ทรัฟเฟิลแร่บาง ๆ และตบด้วยผักร็อคเก็ตครับ เนื้อจะนุ่ม ๆ ชุ่มฉ่ำไปด้วยรสหวานฉ่ำ ตัดด้วยความเปรี้ยวเล็กน้อยของซอสและกรุบกรอบจากผักต่าง ๆ ที่เราใส่ไป ดีจ้า อร่อยเหาะ

ต่อมาเป็น The Shore Burger ครับ เบอร์เกอร์ที่ใช้ขนมปังบริออชหนานุ่ม เนื้อแองกัส แฮมที่กรอบ ๆ หน่อย มีชีสแผ่นโปะ โรยด้วยผงปาปริก้าและทรัฟเฟิลมายองเนส โดยรวมถือว่าดีครับ แต่เราตัดคะแนนเรื่องแห้งไปนืดนึง หรือว่าเราถ่ายรูปนานก็ไม่รู้เหมือนนะ โดยเบอร์เกอร์ตัวนี้จะเสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายส์จ้า จริง ๆ จะบอกว่า คนที่ทานน้อย ๆ สั่งเมนูนี้มาแชร์คือได้เลยนะ เพราะเราจุกพอตัวเลยล่ะ

Beef Tenderloin คือตัวเลือกถัดไปของเมนูอาหารเที่ยงที่ The Shore Phuket ครับ เนื้อสันในความสุกตามใจเราหั่นพอดีคำ ราดและเสิร์ฟพร้อมกับซอสชิมิชูรี (ตัดเลี่ยนได้ดีเลย)รับประทานคู่กับอาร์ติโชค เห็ดและมั่นฝรั่งครับ (เมนูนี้สายเนื้อแบบเราน่าจะชอบนะ)

ต่อกันอีกนิดสำหรับเมนูที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดีที่เหมาะสำหรับการเตรียมพร้อมสู่ยามบ่ายที่อากาศค่อนข้างร้อนกับ Caprese Salad คาเปรเซ่สลัด ชิมมอสซาเรลลาสด มะเขือเทศสด ซอสเพรสโต ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำมันมะกอก ซึ่งส่วนใหญ่เมนูจานนี้สามารถเสิร์ฟ ณ ช่วงเวลาไหน หรือทานมื้อไหนของวันก็ได้นะครับ

รับประทานของคาวและของหวานเสร็จแล้วก็มาต่อกันที่ไอศครีมมะพร้าวอร่อย ๆ และ Afternoon Tea กันเลยดีไหม คือจริง ๆ เมนู Afternoon Tea นี่ควรเสิร์ฟบ่าย ๆ ล่ะครับแต่ทว่าเรากลัวเวลาไม่ทันเลยให้ทางโรงแรมจัดให้เพื่อทำการถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ เลยครับ 

ปรัมปรา (Param Para)

ตะกี้พาเพื่อน ๆ ไปชมมื้อเที่ยงเรียบร้อยแล้วก็ขอมาต่อกันที่มื้อเย็นกับห้องอาหาร Param Para ห้องอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานวรรณคดีไทย “ป่าหิมพานต์” ซึ่งบรรยากาศของห้องอาหารแห่งนี้บอกได้คำเดียวว่าอลังการงานสร้างเหมือนเราได้เข้าไปนั่งรับประทานอาหารในป่าหิมพานต์อย่างแท้ทรู หรูหรา โออ่า และเลอค่าน่าสัมผัสสักครั้งเมื่อมาเที่ยวที่ The Shore at Katathani Phuket ครับ

ห้องอาหาร Param Para นั้นจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณ 18:30 นาฬิกา ด้านหน้าทางเจ้าห้องอาหารจะมีหัวโขนจากตัวละครเรื่องรามเกียริ์วางประดับอยู่พร้อมกับเมนูอาหาร เช่นเดียวกับด้านในที่จะมีตุ๊กตาตัวพระ ตัวนาง และตัวยักษ์ประดับอยู่บนโต๊ะอาหารทุกโต๊ะพร้อมกับเชิงเทียนนกสุวรรณเป็นที่สวยงามมาก ๆ เลยครับ

มาต่อกันที่เมนูอาหารดีกว่า บอกเลยว่าไม่ธรรมดาสุด ๆ เริ่มกันที่จานแรก “ป่าหิมพานต์” ซึ่งเป็นเมนูเครื่องว่างของไทย มีทั้งช่อม่วง ไส้ไก่ แป้งสิบไส้ปลา ขนมจีบไก่รูปนก ถังทอง ปูจ๋านึ่งซึ่งแต่ละเมนูนั้นเป็นของว่างแบบชางวังทั้งนั้นเลยครับ สารภาพตามตรงว่าบางอย่างเอมก็พึ่งเคยมากินที่ The Shore Phuket เป็นครั้งแรกเลย 

จัดกันต่อที่ “พรานล่อเนื้อ” สะเต๊ะเนื้อ 4 ชนิด ได้แก่ หมู เนื้อ ทะเล 520 บาท ซึ่งเขาเสิร์ฟมาแบบห้อยเป็นชิ้น ๆ เพื่อความง่ายในการรับประทานแต่ก็คงความสวยงามไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งเนื้อทั้งสี่นั้นจะมาพร้อมกับน้ำจิ้มถั่ว ซัลซามะม่วงและผักสดเพื่อคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนและรสสัมผัสของอาหารที่มากขึ้นครับ

“พระลักษณ์ลงสวน” 1,200 บาท หรือยำเนื้อวากิวย่าง คือเมนูที่ต้องห้ามพลาดเช่นกันสำหรับมื้อเย็นที่ห้องอาหารนี้ครับ เราสามารถเลือกความสุกของเนื้อที่เราอยากรับประทานได้อย่างสมใจซึ่งเมนูจานนี้จะมาพร้อมกับผักหลากหลายชนิด มีรสเปรี้ยวเล็กน้อยและเผ็ดนิดหน่อย เหมาะสำหรับสายเนื้อเป็นที่สุดจ้า (เราชอบเมนูนี้สุด ๆ เลย)

สำหรับของหวานที่แนะนำก็จะมีข้าวเหนียวมะม่วงกับบัวลอยครับ อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เป็นคนกินเยอะ ๆ เราก็ขอแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องสั่งเยอะนะฮะ เพราะ Portion แต่ละจานคือใหญ่มาก เดี๋ยวจะพาลรับประทานไม่หมดเอาเสียดายอาหารแน่ ๆ อ้อ อีกอย่างหนึ่งคืออาหารที่นี่จะรสชาติค่อนข้างออกหวานนะครับ หากใครไม่ชอบทานรสชาติหวาน ๆ หรือสามรสอาจจะต้อง mention กับพี่ ๆ พนักงานนิดนึงครับ

มุมถ่ายรูปสวย ๆ ของ The Shore

นอกเหนือจากอาหารและบริการที่ดีแบบสิบดาวว้าว ๆ แหวนแล้ว The Shore at Katathani ยังเป็นโรแมนติครีสอร์ทที่มีมุมถ่ายรูปสวยมาก ๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำส่วนกลางของโรงแรม คือสวยมากแนะนำให้มาเช้า ๆ หน่อยเพราะว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเขาจะมาอาบแดดกันทั้งวัน ดังนั้นใครอยากได้ภาพสวย ๆ ไร้คนก็มากันเร็วนิดนึง หรือใครจะมานอนแช่ทำผิวสีแทนก็จัดกันไปเลยนะครับยาว ๆ ทั้งวันจ้า

สรุป The Shore at Katathani

ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ Honeymoon หรือเข้าพักที่รีสอร์ทที่การันตีเรื่องความ Romantic สักครั้งในชีวิต The Shore at Katathani จะเป็นหนึ่งในที่พักภูเก็ตที่เพื่อน ๆ จะไม่ผิดหวังแน่นอนเลยครับ แล้วยิ่งมีโปรโมชั่นเราเที่ยวด้วยกันแล้วละก็ เอมอยากให้รีบตัดสินใจสำหรับใครที่อยากไปเลยนะ รับรองว่าคุ้มจ้า

ข้อมูลติดต่อ The Shore at Katathani

• โทร: 076318350
• website: http://www.theshore.katathani.com/

Google Map