รีวิวคุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีลา เที่ยวด้วยตัวเอง
สวัสดีครับทุกคน วันนี้เอมมีรีวิวเที่ยวจีนด้วยตัวเองในเส้นทางคุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีลา (Kunming, Lijiang, Shangrila) ระยะเวลา 6 วัน 5 คืน เที่ยวตามได้ง่าย ๆ เลยครับ

อัพเดท ปี 2024 ตอนนี้ เที่ยวจีน FREE VISA แล้วก็ไม่ต้องกรอก Health Declaration Form แล้วนะครับ
แอดมิน
Table of Contents

Plan การเดินทาง
วันที่ 1 (นอนลี่เจียง)
- บินจากดอนเมืองสู่คุนหมิง
- นั่งรถไฟ Bullet Train จากคุนหมิงไปลี่เจียง (ถึงเย็น)
- พักที่ Lijiang Yue Tu Inn
วันที่ 2 (นอนลี่เจียง)
- ภูเขาหิมะ มังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)
- หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)
- ลี่เจียงอิมเพรสชั่น (Impression Lijiang Show)
- เมืองเก่าต้าเหยียน (Dayan Old Town)
- ลานซื่อฟางเจีย (Sifang Square)
- กลับมาพักที่ Lijiang Yue Tu Inn
วันที่ 3 (นอนแชงกรีลา)
- เหมารถจาก Lijiang ไป Shangri-La
- วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin Monastery)
- เจดีย์ถ่าจงถ่า (Shangri-la Inner Harmony Stupa of Pagoda)
- ทะเลสาบน่าผ้า (Napa Lake)
- เมืองโบราณตู๋เค่อจง (Dukezong Ancient Town)
- วัดกุยชาน (Guishan Temple)
- พักที่ The blue mountains on the moon
วันที่ 4 (นอนคุนหมิง)
- เดินทาง Shangri la สู่ Lijiang (รถเช่า)
- เดินทาง Lijiang สู่ Kunming (รถไฟ)
- พักที่ New Era Hotel
วันที่ 5 (นอนคุนหมิง)
- น้ำตกคุนหมิง Kunming Waterfall
- คาเฟ่ %Arabica ที่ตึก Spring city 66
- โรงงานยางคุนหมิง (Kunming Rubber Factory)
- ทะเลสาบชุ่ยหู (Cuihu park)
- ประตูม้าทองไก่มรกต (Golden Horse and Jade Cock Gate)
- ช้อปปิ้งที่ห้างชุนเชิง (Shuncheng Shopping Center)
- ชาบู Zei tu hotpot
- พักที่ New Era Hotel
วันที่ 6 (กลับไทย)

AirAsia แนะนำบินสายการบินนี้ครับ
AirAsia มีเที่ยวบินตรงดอนเมืองสู่คุนหมิงทุกวัน บริการดี อาหารอร่อย แนะนำซื้อเป็นแพ็กสุดคุ้มตอนจองตั๋วจะได้เลือกที่นั่งได้ จะนั่งริมทางเดิน หรือจะนั่งริมหน้าต่างชิมวิวสวย ๆ ก็จัดไป แถมมีอาหารร้อนและน้ำหนักกระเป๋าอีก 20 กิโล คุ้มกว่าจองแยกเยอะ นอกจากนั้นยังใช้เวลาเดินทางแค่สองชั่วโมงนิด ๆ เองนะ


Part 1: การเตรียมตัว (ความสูงใดๆ item ที่ต้องพก กระบอกน้ำ ยาดม)
สุขภาพ
เพราะเรากำลังจะขึ้นไปบนที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 4,000 เมตร สิ่งที่อาจเกิดขึ้น: หายใจไม่ทัน เหนื่อยง่าย เกิดภาวะขาดออกซิเจน ดังนั้น หากทริปของเรามีบุคคลที่สุขภาพไม่แข็งแรง เอมแนะนำว่ายังไม่ต้องรีบขึ้นภูเขามังกรหยก ภายในวันสองวันแรกครับ อาจจะพักคุนหมิงสักคืน และลี่เจียงสักคืน (หรือต้าลี่ก็ได้) เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ อย่าอดอาหาร อย่ารีบวิ่ง
ซิมโทรศัพท์เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะการเที่ยวคุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีลาด้วยตัวเองนั้น เราควรมีสัญญาณ internet ตลอดเวลาครับ ซึ่งเอมมีโปรซิมโทรศัพท์มาฝากด้วยนะ >> จิ้มเลย
สุขอนามัย
เส้นนี้สะอาดกว่า 10 ปีที่แล้วที่เอมเคยมาอย่างเห็นได้ชัดครับ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่นักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ ก็อาจมีเจอห้องน้ำที่สะอาดและไม่สะอาดบ้างดังนั้นกระดาษชำระแบบเปียก และกระบอกน้ำ (ทั้งสำหรับดื่มและเผื่อใช้ชำระล้างใดๆ) เราก็ควรพกไว้ส่วนตัวด้วยครับ
บันทึกชื่อสถานที่ที่จะไปเป็นภาษาจีน**
ก่อนเดินทาง หาวันว่างสักวันตรวจสอบสถานที่ที่เราจะไป แล้วเซฟรูปพร้อมทั้งแปะตัวหนังสือลงบนภาพไว้แบบทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากนั้น อยากให้พิมพ์สถานที่ต่าง ๆ ที่เราจะไปเป็น Text แยกเอาไว้สำหรับการหาพิกัดบน Baidu ครับ
“ใจ” คือสิ่งสำคัญ
เอมใช้บริบท “จอยๆ” กับทุก “ความไม่คาดคิด” ที่เกิดขึ้นที่จีนนะครับ เช่น ไม่เป็นไปตามแผน สื่อสารยาก คนแซงอะไรใด ๆ แต่สิ่งที่เอมไม่เคยเจอประสบการณ์แย่ๆ ที่ประเทศจีนตลอดการเป็น Blogger เลย คือ “การโกงค่าโดยสาร” การพยายามเอาเปรียบแบบฉ้อฉลครับ อีกอย่างหนึ่งคือ คนจีนเป็นคนมีน้ำใจนะครับ เป็นสิ่งที่คล้ายคนไทยมาก ๆ เลย

Part 2: VISA จีน (FREE VISA)
ตอนนี้จีน Free VISA แล้วนะครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่หารถเช่า หรือ local Guide: จิ้ม
- โทร : 0984077803
- line id : Ann_pnt
ซึ่งรถเช่าใด ๆ ระหว่างเมืองเอมก็ใช้บริการจากเพจนี้เช่นเดียวกันครับ

Part 3: Applications ที่ควรมี
สัญญาณ Internet เป็นสิ่งที่เอมอยากให้มีไว้ตลอดเลยนะครับ และสิ่งที่เกิดขึ้นแน่ ๆ คือหลาย ๆ พื้นที่ในประเทศจีนอับสัญญาณหรือไม่เราก็มัวแต่อัพ Social จนความไว internet หมด ดังนั้นอยากให้เพื่อน ๆ ระมัดระวังส่วนนี้ก่อนจะเข้าเรื่องครับ
- App การเงิน (สำคัญมาก): Alipay, WeChat และ WeChat Pay (หาวิธีการผูกบัญชีรอล่วงหน้าเลยครับ เอมเคยพลาดแล้ว)
- App แผนที่: Baidu (Google Map แบบจีน)
- App Taxi: Didi
- App แปลภาษาเช่น Google Translate ได้ใช้แน่นอนรับรอง 100%ครับ
..
อย่าลืมเปิดโรมมิ่งหรือซื้อ Sim ที่สามารถใช้ OTP จากไทยกันกรณีทำธุรกรรมฉุกเฉินและติดต่อคนที่ไทยนะครับ
ข้อมูลสำคัญ*****
- เงินสดแลกไว้เผื่อบ้าง แต่ส่วนใหญ่จ่าย Alipay และ WeChat
- เซฟชื่อสถานที่ที่จะไปเป็นข้อความไว้ เซฟรูป ทำเป็นอัลบั้มไว้เลย

Part 4: การเดินทาง
การเดินทาง
เอมกับเพื่อนเดินทางด้วยสายการบิน AirAsia บินตรงจากดอนเมืองสู่คุนหมิงด้วยระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 25 นาที มีเที่ยวบินทุกวันช่วยให้แพลนทริปง่ายขึ้นมาก ๆ แถมบนเครื่องยังมีอาหารเครื่องดื่มกลับมาบริการเรียบร้อยแล้วด้วยนะ
จากคุนหมิงไป - กลับ ลี่เจียง
- จอง Bullet Train ผ่าน trip.com
- ดู สถานี Kunming ไป Lijiang
- ขาไปเราจองผิด เป็น Kunming South ไป Lijiang
- ไปได้เหมือนกันแต่เสียเวลาเพิ่มหน่อย
- จองแบบชั้น 1 เพื่อการันตีที่นั่ง
- จองแบบชั้น 2 ได้ยืนยาว 4 ชั่วโมงแน่ ๆ
จากลี่เจียง ไปและกลับจาก Jade Dragon (1 Day Trip) และจากลี่เจียง
ไปและกลับจากแชงกรีล่า เราเหมารถไปนะครับ (ข้อมูลติดต่อต่าง ๆ เดี๋ยวจะใส่ไว้ให้นะครับ)
การเดินทางในคุนหมิง
ใช้บริการ Taxi ในเมืองได้เลยครับ ไม่โกงแน่นอน

Part 5: งบประมาณ
ค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง
- จ้างทำ VISA 2,600 บาท (ไม่ต้องต่อคิวมหาศาล)
- ต้องไป Scan นิ้ว 1 วันที่อาคารธนภูมิ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวม นน. 20 กิโล (8,296 B)
- ค่ารถไฟ Bullet Train ไปกลับ (2,628 B)
- ค่าทริป Jade Dragon ค่าเข้า + กระเช้า (1,200 B)
- ค่าโชว์ Lijiang Impression Show (1,400 B)
- ที่พัก 5 คืน 20,400 / 5 = (4,080 B)
- ค่าเช่ารถรวม (2,025 B)
ค่าใช้จ่ายกองกลาง 8,296 + 2,628 + 1,200 + 1,400 + 4,080 + 2,025 = 19,629 บาท

การกรอก Arrival Card
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper

เริ่มทริปกันดีกว่า
วันที่ 1 ออกเดินทาง
พวกเราออกเดินทางมาที่สนามบินดอนเมืองกันในช่วงรุ่งเช้าเพราะเที่ยวบินของ AirAsia จากดอนเมืองไปคุนหมิงประเทศจีนนั้นจะบินตอน 8 โมงเช้าครับ ซึ่งสำหรับเพื่อน ๆ ที่ขี้กังวลและอยากได้ความสะดวกสบายตอนเช็คอินและโหลดกระเป๋าเอมแนะนำให้ซื้อบริการเสริม Premium Flex นะ ด้วยสิทธิพิเศษต่าง ๆ ดังนี้

- ได้น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัมต่อคน
- เลือกที่นั่งมาตรฐานและ Hot Seat
- อาหารร้อน
- ความคุ้มครองกรณีสัมภาระล่าช้า เที่ยวบินล่าช้า และยกเลิกเที่ยวบิน
- จัดส่งสัมภาระและเช็คอินด่วน*
- เปลี่ยนวันเวลาเดินทางได้สองครั้งครับ
ซึ่งหลัก ๆ สำหรับเอมแล้ว การเช็คอินด่วน แบบเดินพรมแดงนั้นเป็นอะไรที่ฮีลใจมาก ๆ เนื่องจากผู้คนที่บินไฟลท์เช้าในสนามบินดอนเมืองนั้นแน่นหนามากครับ บริการนี้จะทำให้เราชิลล์ได้ขึ้นเยอะ ไม่ต้องรีบร้อนมาก เปิดทริปไปคุนหมิงประเทศอย่างฟิน ๆ

อีกหนึ่งความดีงามของตั๋วแบบ Premium Flex ของสายการบิน AirAsia คือการเลือกที่นั่งซึ่งเอมขอเชียร์ให้เลือกที่นั่งแบบ Hot Seat แบบแถวที่ 1 ไปเลยนะ เพราะถึงแม้ว่าที่นั่งปกติของแอร์เอเชียจะกว้างขวางนั่งสะดวกสบายอยู่แล้ว แต่แถว Hot Seat นี่คือฟินไปอีก เข้าเครื่องก่อน เข้าห้องน้ำง่าย ยืดแข้งยืดขาสบายมาก ๆ จ้า

นอกจากนั้นสำหรับเพื่อน ๆ ที่คิดว่าหิวบนเครื่องแน่ ๆ และใช้บริการ Premium Flex แบบเอมก็สามารถสั่งอาหารไว้ทานบนเครื่องล่วงหน้าได้เลย หรือเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้ซื้อบริการดังกล่าวเพิ่ม ก็สามารถสั่งอาหารล่วงหน้าผ่าน App มาทานได้เช่นกันครับ และมื้อนี้เอมก็จัดข้าวหน้าไก่เทริยากิมาทานเป็นมื้อเช้าครับ อร่อยถูกใจ ทานเสร็จไปแป๊บเดียวก็เผลอหลับปุ๋ยตื่นมาอีกทีก็ถึงสนามบินคุนหมิงแล้วจ้า
สนามบินคุนหมิง และ การผ่าน ตม.
ง่ายจนตกใจ การผ่าน ตม. ที่สนามบินคุนหมิงประเทศจีนคือง่าย ๆ มาก ๆ และนี่คือสิ่งที่เพื่อน ๆ จะต้องเตรียมนะครับ
- QR code หลังจากการกรอก Health Declaration Form
- แพลนเที่ยวคร่าว ๆ
- แนะนำให้จดเบอร์ของที่พักและชื่อของเมืองที่เรากำลังจะไปเที่ยวไว้
- ส่งให้เจ้าหน้าที่เข้าดูเลยครับ แป๊บเดียว เข้าก็ปั๊มตราเข้าประเทศให้แล้วจ้า

ความผิดพลาดแรกและความสนุกแรกของทริป
แพลนทริปของพวกเรานั้นตั้งใจไปเก็บโซน Lijiang – Jade Dragon Mt. และ Shangri-La ก่อน เราจึงจะนั่ง Bullet Train (รถไฟความเร็วสูง) ที่สถานีรถไฟ Kunming ไปที่ Lijiang ครับ แต่นิ้วพวกเรามั่นลั่นจึงดันเผลอไปจองขึ้นรถจากสถานี Kunming South ไป Lijiang แทนเลยต้องนั่ง Taxi จากสนามบินไปที่ถานีรถไฟ Kunming South แทนครับผม อ่ะ ถือว่านั่งรถเล่นชมเมืองไปจ้า

Bullet Train สถานี Kunming South สู่ Lijiang
เทคนิคเล็กน้อยเมื่อมาถึงสถานีรถไฟนะครับ
- ตั๋วที่เราจองจะเป็น E – Ticket เท่านั้น
- เช็คชานชาลาด้วยการเอา E – Ticket นั้นไปถามจาก Customer Service
- พนักงานเขาจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้นะครับ
- เน้นแสดงรอบรถแล้วเขาจะแจ้งชานชาลาเรา
- ในกรณีจองตั๋วรถไฟให้เพื่อน ตั๋วหลักก็จะมีใบเดียวนะครับ อย่าลืมเซฟเป็นรูปแล้วแจกจ่ายให้กันและกันไว้ในมือถือ
- เมื่อถึงเวลาขึ้นรถเราจะเห็นได้ว่าพี่จีนจะเริ่มไปออกันอยู่ตรง Gate ครับ อย่างไรก็ตามสามารถดูจอ Monitor ที่แสดงรอบรถต่าง ๆ ในสถานีได้
- ใช้ Passport ในการตรวจสอบก่อนเข้าไปยังรถไฟครับ
- เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วก็รีบเข้าไปนั่งประจำที่ที่เราจองไว้นะครับ
- สัมภาระต่าง ๆ เอาไว้ด้านหลังเบาะได้ครับ
- อย่าลืมซื้อของกินและน้ำที่สถานีพกไว้บ้าง บนรถไฟมีขายแต่แพงครับ 55

นั่ง Bullet Train รถไฟความเร็วสูง
การนั่งรถไฟความเร็วสูง หรือ Bullet Train ของจีนถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่โดยส่วนตัวเอมแนะนำให้มาลองสัมผัสสักครั้งเมื่อมาเที่ยวที่คุนหมิงเลยนะครับ หากจินตนาการไม่ออกก็ลองนึกถึง Shinkansen ของประเทศญี่ปุ่นได้เลยจ้า ลักษณะโดยทั่วไปจะประมาณนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าพี่จีนเองแกก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เอมเลยแนะนำให้จองที่นั่งแบบระบุที่ไปเลยเพื่อความสบายใจ และยิ่งไปกับเพื่อน ยิ่งได้นั่งชมวิวสวย ๆ ระหว่างทางด้วยกันเม้ามอยถึงทริปมัน ๆ ที่กำลังจะได้เจอยิ่งม่วนหลายอิหลี

นอกจากนั้น สิ่งที่รถไฟขบวนนี้จะมอบให้แก่ผู้โดยสารของมันก็คือทัศนียภาพสองข้างทางที่ทำให้เราประทับใจในความพยายามเอาชนะธรรมชาติของพี่จีนทั้งเจาะภูเขา ทำเหมือง ทำฝาย ทำเขื่อน คือเขาทำให้เราเข้าใจถึงความพยายามทำใหัตัวเองอยู่รอดและก็ทำให้รับรู้ว่าธรรมชาติของแผ่นดินมังกรนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนไปพร้อม ๆ กัน ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่หลากหลายความรู้สึกมันเอ่อล้นในใจจริง ๆ อ่ะ ๆ อินไปอินมา จนเผลอม่อยหลับไปยามใดก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตื่นมาที่สถานีลี่เจียงแล้วนะครับ
Lijiang Yue Tu Inn มาลี่เจียงนอนนี่เท่านั้น!
จากสถานีลี่เจียง พวกเราเหมารถกันมาที่โรงแรม Lijiang Yue Tu Inn ที่พักแนวโรงเตี๊ยมจีนดุจได้เข้าไปเป็นเซียว เหล่ง นึ่ง ในหนังดาบมังกรหยกสมัยยังเด็ก (เกิดทันกันไหม) และที่สำคัญเลยคือพี่ที่ดูแลเขาพูดภาษาอังกฤษได้แก๊! เป็นคนจีนในคุนหมิงแบบหนึ่งในร้อยที่เราเจอที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ (บอกเลยว่าเขาจะช่วยชีวิตเธอได้เยอะในทริปนี้ 55)

มาดูในส่วนของห้องนอนกันหน่อย ห้องนอนที่เอมนอนกับเพื่อน ๆ จะเป็นลักษณะ Duplex Style คือมีชั้นลอยในห้องอีกทีนะครับ น้ำร้อนน้ำเย็นที่นี่ใช้งานได้ดี แอร์อาจจะเย็นช้านิดหน่อยแต่ไม่เป็นปัญหา ในโรงแรมมีที่นั่งส่วนกลางที่มีขนมและผลไม้ให้ทานฟรี และตรงระเบียงนั้นก็จะเห็นวิวของ Jade Dragon Snow Mountain ด้วยนะครับ เอาล่ะ นอนหลับพักผ่อนแล้วเกียมไปตะลุยเที่ยวกันพรุ่งนี้ดีกว่าคร้าบ

วันที่ 2 (1 Day Trip Jade Dragon Snow Mountain)
เอาล่ะ เช้าวันใหม่สดใสซาบซ่า วันนี้พวกเราก็รีบตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพราะว่าได้เอมกับเพื่อน ๆ ได้ติดต่อ Local Guide ไว้ให้พาไปเที่ยว ภูเขาหิมะ มังกรหยก (Jade Dragon Snow Moutain) ไปหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Bluemoon Valley หรือ ไป๋สุ่ยเหอ) และ ดูโชว์ Lijiang Impression Show

การเตรียมตัวที่สำคัญ
- อย่าลืมทานอาหารเช้า
- เรากำลังจะขึ้นไปบนที่สูง 4,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลอย่าห้าววว!!
- ออกซิเจนกระป๋อง ขนมหวาน น้ำ เอาใส่กระเป๋าเตรียมไปด้วย

เมื่อถึงเวลานัด (8 โมงเช้า) พี่คนขับรถก็จะมารับเราที่บริเวณโรงแรมเลย แล้วก็ขึ้นรถแล่นฉิวนั่งมองวิวทิวทัศน์ที่ของเมืองลี่เจียงที่แปรเปลี่ยนเป็นธรรมชาติที่ได้รับการโอบกอดจากขุนเขา และแล้วในที่สุดก็ถึง ภูเขาหิมะ มังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) นะครับ
ก่อนจะไปรีวิวภูเขาหิมะมังกรหยกกัน มารู้จักที่นี่กันก่อนดีกว่าครับ (Yulong National Park Jade Dragon Snow Mountain [玉龙雪山])

ความสำคัญ
- เป็นอุทยานแห่งชาติระดับ AAAAA
- ภูเขาแห่งนี้มีหิมะปกคลุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของจีน
- ชื่ออื่น ๆ: Yùlóngxuě Shān, ภูเขามังกรหยก, 玉龙雪山
- ค่าเข้าอุทยาน: 100 หยวน
- เวลาทำการ: 07.00 – 18.00
- Glacier Park, Blue Moon Valley, และการแสดง Impression Lijiang คืออยู่ในอุทยานนี้หมดนะครับ

รีวิว ภูเขาหิมะ มังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)
Jade Dragon Snow Mountain หรือ ภูเขามังกรหยก เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 5,596 เมตร (แต่เราไต่ไปได้สุงสุด 4,680 เมตร) เทียบกับดอยอินทนนท์ที่สูงประมาณ 2,500 เมตรแล้วเท่ากับว่าเราอยู่ที่สูงขึ้นมา 2 เท่าเลยนะ

เมื่อเราเข้ามาในอุทยานได้แล้ว อ่ะ Step จะเป็นประมาณนี้นะครับ
- เราจะมาปักหลักกันที่ Yulong Snow Mountain Visitor Service Center [玉龙雪山游客服务中心]
- นั่งรถเขียวจากจุดนี้ไปยังจุดนั่งกระเช้าที่ความสูง 3,356 เมตร
- แล้วก็นั่งกระเช้าชมวิว (บางคนว้าว บางคนวูบ 55) ไต่ระดับไปจนถึงความสูง 4,506 เมตร
- เดินขึ้นไปพิชิตยอดที่ 4,600 เมตรครับ

Lijiang Impression Show โชว์โอเพ่นแอร์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน
เมื่อไปถึงแล้วก็จะเจอภูเขาหิมะสีขาวโพลนที่สะท้อนแดดและท้องฟ้าสีครามสดใส พอถึงจุด ๆ นี้หลาย ๆ คนที่มีร่างกายไม่แข็งแรงก็จะเริ่มแสดงอาการแล้วครับ (ปากจะเริ่มเขียวคล้ำ หน้าจะเริ่มซีด) ดังนั้นก็ค่อย ๆ เดิน ชมหิมะไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็นั่งพักกลางทางไม่ต้องรีบจ้า และเมื่อเสพวิวสวย ๆ จนหนำใจแล้ว เราก็จะนั่งรถบัสเขียวย้อนไปชมโชว์สวย ๆ กันต่อกับ Lijiang Impression Show ครับ

หลังจากหน้ามืดจากสองเหตุผลหลัก ๆ แล้ว (วิวสวยจนตะลึง กับ สุขภาพที่ไม่ค่อยอำนวย) เอมกับเพื่อน ๆ ก็ขอมานั่งชม Lijiang Impression Show จากผู้กำกับชื่อดังอย่าง “จางอี้โหมว” โชว์กลางแจ้งที่ใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1,250 ล้านบาท นักแสดงมากกว่า 500 ชีวิต โดยแบ่งออกเป็น 6 ฉาก* ดังนี้
- คาราวานใบชา
- วัฒนธรรมการดื่มสุรา
- หนุ่มสาวผู้ไม่สมหวังในความรัก
- การร้องเพลงของชนกลุ่มน้อย
- การตีกลองบูชาเทพเจ้า
- การขอพรจากเทพเจ้า
- *เอมไม่แน่ใจว่าเนื้อหาปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหมนะครับ
ซึ่งการแสดงทั้งหมดนี้นั้น เราจะชมไปพร้อมกับผู้ชมนับพันบนที่นั่งกลางแจ้ง (แนะนำใส่หมวก ซึ่งเขามีแจกฟรีนะครับ) ความปังคือนักแสดงหลายร้อยชีวิตบนฉากหน้าผาสีแดงและทัศนียภาพของภูเขาหิมะมังกรหยกที่ด้านหลังครับ อ่ะ ดูโชว์เสร็จแล้วก็ได้เวลาไปต่อกันที่หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) [Lan Yue Gu 蓝月谷]

ข้อมูลควรรู้ Lijiang Impression Show (印象丽江)
- สถานที่แสดง: Impression Lijiang Theatre [印象丽江剧场] ในบริเวณ Service Center
- รอบแสดง: ปกติจะมีการแสดง 2 รอบคือ 11.10 น. และ 13.30 น.
- เวลาในการแสดง: 45 นาที – 1 ชม.

หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)
“หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ” เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญในอุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก โดยมีลักษณะพื้นที่เป็นแม่น้ำสีฟ้าไหลผ่านหุบเขาสีเขียวใต้ท้องฟ้าสีคราม ว่ากันว่ามองจากระยะไกลจะคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว

แต่ด้วยความที่ใต้ท้องน้ำนั้นมีหินโคลนและหินปูนซึ่งในบางสภาพอากาศจะทำให้สีน้ำเขียวมรกตนี้กลายเป็นสีขาวน้ำนม จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกใหม่ว่า (Baishui he 白水河) ซึ่งใน Bluemoon Vallery นั้นจะมีทะเลสาบอยู่ 4 แห่งอยู่ในตำแหน่งลดหลั่นกั่นมาจากการไหลของ Baishui he ทั้งหมดครับ

ชื่อทะเลสาบ
- YuYe Lake 玉液湖
- JingTan Lake 鏡潭湖
- LanYue Lake 藍月湖
- Tingtao Lake 聽濤湖

ส่วนหากสังเกตในรูปดี ๆ จะมีน้ำตกหินปูนขั้นบันไดก่อนถึง Yuye Lake นั้นมีชื่อเรียกว่า [Baishui tai 白水台] ครับ เอาล่ะ หลังจากเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์เก็บภาพจนหนำใจแล้วก็ได้เวลาบอกลาอุทยานภูเขามังกรหยกและกลับไปพักผ่อนที่ลี่เจียงกันครับ
ข้อควรรู้
- ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีการนั่งรถบัสวนไปมา จำจุดขึ้นและลงรถบัสให้ดี
- ตั๋วเข้าอุทยานจะมีทั้งแบบรวมรถเคเบิลกับไม่รวมรถแบตเตอรี่นะครับ (ของเราไม่รวม เดินไปจ่ะ)
- รถแบตเตอรี่เหมือนรถกอล์ฟคอยไปรับไปส่งระหว่างทาง จะคนละตัวกับรถบัสนะ
- ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรความรักจากสายน้ำนะ มามูกันเร็ว 55

ลี่เจียง เมืองมรดกโลก
ลี่เจียง (Lijiang) เป็นเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานถึง 800 ปี เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนบนของต้าลี่ ที่ระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 2,400 กว่าเมตรซึ่งช่วยให้เมืองลี่เจียงมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เกล็ดความรู้เพิ่มเติมก็คือ ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองลี่เจียงนี้คือชนเผ่าหน่าซี หรือ นาซีที่อพยพมาจากธิเบต เป็นเผ่าพันธุ์ที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ด้วยนะฮะ

เมืองเก่าต้าเหยียน (Dayan Old Town)
ส่วนไฮไลท์สำคัญของเมืองลี่เจียงที่เอมจะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยวนั้นก็คือ เมืองเก่าต้าเหยียนเมืองโบราณลี่เจียงซึ่งมีสมญานามว่า “เวนิสแห่งตะวันออก” แถมยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้วยนะ

ความน่ารักก็ที่นี่ก็คือสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ปลูกสร้างติดกันแบบไม่มีรั้ว แต่ละซอกซอยมีทางเดินที่ปูด้วยหินอัดแน่น อาคารไม้แบบจีนโบราณ ลำธารที่ไหลผ่านอาคารบ้านเรือน สะพานโค้งหินเก่าแก่ ต้นหลิวริมลำธาร ซึ่งก็จะเต็มไปด้ายร้านค้า ร้านอาหาร ที่ถ่ายรูปน่ารักต่าง ๆ มากมาย และอย่าลืมมาถ่ายรูปคู่กับ “กังหันน้ำโบราณขนาดยักษ์” ซึ่งเป็น Iconic Spot ของเมืองครับ

ลานซื่อฟางเจีย (Sifang Square)
ถนนทุกสายของเมืองเก่าต้าเหยียนจะพาเรามาสู่ลานซื่อฟางเจีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนในท้องที่จะมารวมตัวทำกิจกรรมน่ารัก ๆ กัน โดยในวันและเวลาที่เราไปนั้น เอมกับเพื่อน ๆ ก็บังเอิญโชคดีได้สัมผัสประสบการณ์การเต้นรำแบบท้องถิ่นที่คนในหมู่บ้านแต่งกายด้วยชุดประจำถิ่นมาจับร้องและเต้นรำกันเป็นวงกลมรอบ ๆ ลานครับ น่ารักมาก ๆ เลย โอเค จบการรีวิวโซนลี่เจียงแล้ว พักกันอีกหนึ่งคืน ส่วนตอนเช้าวันที่สามเราจะไปแชงกรีล่ากันละนะ

วันที่ 3 ออกเดินทางสู่แผ่นดินสวรรค์ผืนสุดท้าย แชงกรี-ลา
เช้าวันที่ 3 มาเยือนแล้ว เอมกับเพื่อน ๆ ก็ตื่นกันแต่เช้า (ทริปนี้ตื่นเช้าทุกวันนะทุกคน) เพื่อออกเดินทางจากลี่เจียงโดยรถเช่าพร้อมคนขับ เพื่อออกเดินทางสู่ แชงกรีลา หนึ่งในไฮไลท์ของทริปครับ

แชงกรี–ลา คืออะไร? เราอาจได้ยินคำ ๆ นี้จากหนังเอยอะไรเอยจนงงไปหมดว่าจริง ๆ แล้วแชงกรี–ล่าคืออะไรแน่สำหรับมณฑลยูนนานนี้ คำตอบก็คือนางเป็นนครระดับอำเภอ เป็นแผ่นดินทางทิศตะวันตกของจีน โซนธิเบตแนวเดียวกับสันเขาหิมาลัย เลยมีชื่อเรียกเก๋ไก๋ไปต่าง ๆ นานา อาทิ เมืองสุดขอบฟ้าแห่งหลังคาโลกบ้าง แผ่นดินสุดท้ายก่อนถึงสวรรค์บ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่มาจากเสน่ห์ของเมืองที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยเราจะเริ่มต้นเที่ยวกันที่วัดซงจ้านหลินครับ (แชงกรีล่า’ ดินแดนในจินตนาการ ซึ่งได้ปรากฏนามเป็นครั้งแรกเกือบ 90 ปีก่อน ในบทประพันธ์คลาสสิกเรื่อง Lost Horizon ของเจมส์ ฮิลตัน)

วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin Monastery)
เริ่มกันที่วัดซงจ้านหลิน หรือ วัดทิเบตซงจ้านหลิน (Ganden Sumtseling Monastery) สถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่ได้รับการยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งทิเบต วัดที่ถอดแบบมาจากพระราชวังโปตาลา (Potala) ที่เมืองลาซ่า เขตปกครองตนเองทิเบต และเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนานซึ่งพี่น้องชาวจีนนิยมแต่งกายด้วยชุดท้องถิ่นขึ้นมาถ่ายรูปกันแบบจริงจังเลย อ่ะและเมื่อสมใจแล้ว เราก็ขอให้พี่เขาพาขับรถไปเที่ยวชมพื้นที่รอบ ๆ แชงกรีลากันหน่อย (ข้อดีของการเหมารถเช่าก็คือแบบนี้ล่ะ จะแวะไหนก็ได้)

รีวิวจริงใจ
- ยังไงก็ต้องนั่งรถบัสขึ้นมานะ
- รีวิวไหนบอกเดินขึ้นมาวัดได้ เอมว่าถนนมันน่ากลัวไป ไม่มีไหล่ทางให้เดิน อันตรายครับ
- ด้านบนมีน้ำดื่มและไส้กรอกขายครับ ไม่ต้องกลัวหิว
- พิกัด: https://goo.gl/maps/KkHeKjk6oU4SnDH86

เจดีย์ถ่าจงถ่า (Tazhongta 塔中塔)
ระหว่างทางขับรถนั้น พี่คนขับรถซึ่งสื่อสารกันด้วยภาษามือเป็นหลักก็ได้แนะนำ เจดีย์ถ่าจงถ่า Tazhongta 塔中塔 เป็นเจดีย์สีขาวที่สูง 108 เมตรและเป็นเจดีย์ขาวของศาสนาพุทธที่สูงที่สุดในโลก สถานที่แห่งนี้มีอีกชื่อเรียกว่า Inner Harmony Stupa of Pagoda แปลได้อย่างตรงตัวเลยครับ “เจดีย์ที่สร้างในเจดีย์” สร้างขึ้นเมื่อปี 1997 เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 40 ปีของเมืองตี๋ซิ่งครับ

น่าเสียดายที่นี้ยังไม่มีประวัติความเป็นมาและข้อมูลใด ๆ อธิบายไว้บน Internet มากนัก แถมเอมดันไม่มีความรู้ภาษาจีนมากพอด้วย หากมีใครมีไอเดียเกี่ยวกับที่นี่สามารถมาอธิบายเพิ่มเติมได้เลยนะครับ (ปล. ด้านในเจดีย์ห้ามถ่ายรูปนะครับ) เอาล่ะ ยังพอมีเวลาเหลือ เราไปต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปที่ Napa Lake ครับ
น่าเสียดายที่นี้ยังไม่มีประวัติความเป็นมาและข้อมูลใด ๆ อธิบายไว้บน Internet มากนัก แถมเอมดันไม่มีความรู้ภาษาจีนมากพอด้วย หากมีใครมีไอเดียเกี่ยวกับที่นี่สามารถมาอธิบายเพิ่มเติมได้เลยนะครับ (ปล. ด้านในเจดีย์ห้ามถ่ายรูปนะครับ) เอาล่ะ ยังพอมีเวลาเหลือ เราไปต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปที่ Napa Lake ครับ
พิกัด: Google Map
น่าพ่าไห่ (Napa Lake)
Napa Lake หรือ น่าพ่าไห่ เป็นเสมือนบึงน้ำหรือทะเลสาบขนาดใหญ่ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเมื่อมาที่ Shangri-la ครับ สิ่งที่เอมชอบมาก ๆ คือเราจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ภูเขาที่สูงตระหง่านทะยานฟ้า ทุ่งหญ้าสีเขียวและฝูงสัตว์เบื้องล่างที่พอมองไปแล้วตัวเล็กจิ๋ว ซึ่ง ๆ หากเราจะเดินลงไปถ่ายภาพเบื้องล่างในยุคปัจจุบันจะมีค่าใช้จ่ายในแต่ละจุดแล้วนะครับ (เมื่อสิบปีที่แล้วที่เอมมาไม่เสียเงินนะ 555)

หลังจากที่เราเอ็นจอยเก็บภาพกับ Napa Lake แล้ว เราจะกลับไปเดินเล่นช่วงเย็นกันที่เมืองโบราณตู๋เค่อจง (Dukezong Ancient Town) ย่านเมืองเก่าของแชงกรีล่า โดยไฮไลท์ทริปในครั้งนี้คือการเดินเล่นในย่านเมืองเก่าและขึ้นไปสักการะกงล้อใหญ่สีทองที่วัดต้าฝอ (Guishan Temple) หรือ (Dafo Temple) 大佛寺
พิกัด: Google Map
ตู๋เค่อจง (Dukezong Ancient City)
เมืองตู๋เค่อจง หรือชื่อภาษาทิเบตว่า “โต่กาจง” ที่เพื่อน ๆ เห็นในรีวิวนี้เป็นเมืองที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่หลังปี 2014 ครับ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ว่าบริเวณเมืองเก่าที่มีอายุมากกว่า 300 ปี แห่งนี้เกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่ทำให้สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่เสียหายครับ

บริเวณเมืองเก่าตู๋เค่อจงนี้ก็จะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ลานกิจกรรมที่เราสามารถมาดูเพื่อน ๆ ในท้องถิ่นทำกิจกรรมน่ารัก ๆ กันยามเย็น เช่นเต้นรำ ร้องเพลง นัดพบปะพูดคุย ซึ่งเอมขอแบ่งโซนสำคัญของย่านเมืองเก่าดังนี้ครับ
- สวนสาธารณะกุยซาน
- จัตุรัสแสงจันทร์ ซึ่งเป็นทางขึ้นวัดต้าฝอจ้า
วัดต้าฝอ (Dafo Temple)
วัดต้าฝอ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่คนไทยคุ้นชินกันกับภาพกงล้อยักษ์ จว่านจิงถ่ง 转经筒 สีทองสูงกว่าสิบเมตรและต้องใช้แรงคนมากกว่า 15 คนหมุนถึงจะหมุนได้ โดยผู้คนที่นี่เชื่อว่าหากหมุนกงล้อนี้แล้วจะโชคดีครับ เอาล่ะ รออะไร หมุนไปสิ ปวดหลังปวดไหล่ แต่เพื่อความสุขกายสบายใจในอนาคตพี่ทำได้จ้า

เกือบลืมเล่าไปว่าวัดแห่งนี้จะอยู่บนที่สูงนะครับ เราจะต้องเดินขึ้นบันไดไป ซึ่งหากเพื่อน ๆ มีอาการเหนื่อยล้า ปวดหัว ก็อย่าลืมนั่งพักนะครับ อย่าลืมว่าเราอยู่บนความสูงที่ร่างกายไม่คุ้นชิน ไม่ต้องรีบ ชมวิว ชมทิวทัศน์ไปเรื่อย ๆ แป๊บเดียวก็ถึงกงล้ออธิษฐานแล้ว เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่หาพิกัดจาก Google ต้องใช้คำว่า Daguishan Park น้า

อ่ะ ๆ ก่อนจะโบกมือลาค่ำคืนนี้ที่ Shangri-La เอมก็ต้องแนะนำหนึ่งโรงแรมดี ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากนอนค้างที่นี่แบบเราซึ่งก็ The blue mountains on the moon (ชื่อที่พักครับ)
ที่พัก: The Blue Mountains on the Moon
ดีเกินราคา คุ้มค่ากว่าจะนอนคืนเดียวมาก ๆ The Blue Mountains on the Moon คือห้องพักสวยมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยี่ยงโรงแรมห้าดาว ตัวห้องจะเป็นสไตล์บ้านพักทิเบต ปูพรมตกแต่งอย่างสวยงาม พื้นทีส่วนกลางมีของกินให้เรา 24 ชั่วโมง (ชา กาแฟ ผลไม้) แถมห้องน้ำคือดีมาก แบบโรงแรมห้าดาวในไทยหลาย ๆ ที่ควรมาดูงานครับ

นอกจากที่อวยใด ๆ แล้ว ตัวโรงแรมยังอยู่ใกล้ ๆ กับเมืองเก่าอีกด้วยแบบเดินไปเที่ยวได้เลย และที่สำคัญเลยคือชาบูเนื้อจามรีของที่นี่คือเด็ดครับ สำหรับวันนี้ก็ถึงเวลาพักผ่อนแล้วครับ เจอกันอีกทีพรุ่งนี้นะคร้าบ
วันที่ 4 เดินทางกลับเมืองคุนหมิง!!!!
สำหรับวันที่ 4 นี้ ภารกิจหลัก ๆ ของพวกเราคือการแบกร่างกลับมาที่ Kunming ด้วยวิธีการเดิมครับ ซึ่งก็คือเหมารถเช่ากลับมาลี่เจียงแล้วต่อ Bullet Train มาที่เมืองคุนหมิงจ้า

เพื่อให้ content นี้ไม่ยาวเกินไป เพื่อน ๆ สามารถย้อนไปอ่านวิธีการนั่งและจอง Bullet Train จากด้านบนเลยนะครับ เหมือนกันเป๊ะ ๆ และเอาเป็นว่าเราก็มาถึงที่ Kunming กันตอน 5 ทุ่มในสภาพพร้อมนอนเลยจ้า อ่ะ ๆ รีวิวทุกสิ่งในคุนหมิงนั้นจะรวบยอดเอาไว้พรุ่งนี้ สำหรับคืนนี้ สวัสดีค่า
วันที่ 5 Kunming ฟรุ้งฟริ้งเว่อร์!
วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราอยู่ที่ประเทศจีนครับ พวกเราเลยเลือกที่จะเก็บเมืองคุนหมิงเป็นพิกัดสุดท้ายก่อนจะกลับเนื่องจากเราจะบินจากสนามบินคุนหมิงกลับสนามบินดอนเมืองนั่นเอง และก่อนจะไปรีวิวคุณหมิง เรามา Recap ความรู้เกี่ยวกับเมืองคุนหมิงกันนิดหนึ่งเนอะ

คุนหมิง เป็นมณฑลชายแดนภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน (ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศจีน) นอกจากนั้นเมืองคุนหมิงยังมีสมญานามน่ารัก ๆ ว่า เมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ
ข้อควรรู้และข้อควรระวัง
- ผู้ป่วยความดันและโรคหัวใจควรลดการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและรวดเร็วเมื่อมาถึงใหม่ ๆ
- การเดินทางครั้งนี้เอมเน้นใช้บริการ Taxi (ไป 4 คนหารกันไม่เท่าไร)
- ในเมืองมีรถไฟใต้ดินที่สะดวกมาก ๆ
- Shopping ใด ๆ เราอาจไม่ได้ราคาที่ถูกที่สุดจากประโยชน์ของค่าเงินนะครับ แบรนด์เนมที่คุนหมิงราคาสูงอยู่จ้า
เอาล่ะ หากพร้อมแล้วเอมจะพาทัวร์ One Day Trip คุนหมิง แล้วนะครับ เริ่มเลย
New Era Hotel ที่พักกลางใจเมือง
New Era Hotel เป็นโรงแรม 4 ดาวในเมืองคุนหมิงซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณย่านถนน Dongfeng West Road จุดเด่นคือทำเลทองมาก ๆ เพราะตัวโรงแรมล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้ามากมายในระยะเดินได้เลยจ้า ส่วนข้อเสียคือแอร์ไม่ค่อยเย็นและพนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ (แต่มีพนักงานพูดภาษาไทยได้ในระดับสื่อสารได้อยู่หนึ่งคนนะ 55) ปล. ใครแพ้กลิ่นบุหรี่ แจ้งไปเลยขอ non smoking room เพราะคนที่นี่เขาดูดบุหรี่กันดุมาก ซึ่งเช้านี้ เราจะเรียกพี่ Taxi (โบกได้เลย สบาย ๆ) ไปที่ น้ำตกคุนหมิง (Kunming Waterfall Park) ครับ

พิกัด: Google Map
Kunming Waterfall Park
Kunming Waterfall Park หรือน้ำตกคุนหมิง เป็นแลนด์มาร์คที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2016 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสวนพักผ่อนหย่อนใจที่มีอีกชื่อว่า Niulan River Waterfall Park ซึ่งภายในประกอบไปด้วยน้ำตกและทะเลสาบอีกสองแห่งโดยน้ำตกยักษ์นั้นมีความกว้างกว่า 400 เมตรและ สูงถึง 12.5 เมตรเลยนะ

เราสามารถเดินลอดน้ำตกได้ด้วยนะครับ (แต่เปียก) ซึ่งเอมก็ลองไปลอดดูแล้วก็เย็นดี แต่กล้องก็เปียกพอตัวเลย 555 และนอกจากนั้นแล้วบริเวณนี้ยังเป็นสวนสาธารณะให้ผู้คนมาพักผ่อน ให้ครอบครัวพาเด็ก ๆ มาเล่นเครื่องเล่นและกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีบริการในวันหยุดพักผ่อนกันอีกด้วยนะ อ่ะ เก็บที่เช็คอินแรกเสร็จแล้วเราจะไปหาคาเฟ่จิบกันสักนิดที่ %Arabica ที่ตึก Spring city 66

Spring City 66
เป็นอาคารสูงระฟ้าสองแห่งและศูนย์การค้าแห่งหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองคุนหมิงที่รวบรวมสินค้า Brandname มาให้เราช็อป และหลากหลายร้านอาหารมาให้เราชิม รวมทั้งคาเฟ่ในดวงใจของใครหลาย ๆ คนอย่าง % Arabica ก็อยู่ที่นี่ด้วยครับ ใครอยากเดินเล่นคลายร้อนในห้องแอร์เย็นฉ่ำ คนน้อย ๆ เป็นจีนที่ดูหรูหรา ห้องน้ำสะอาดไฮโซ เรียนเชิญที่ Spring City 66 ได้เลยย (สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Henglong Plaza)

% Arabica
คงไม่ต้องรีวิวอะไรเยอะสำหรับ % Arabica แบรนด์คาเฟ่ที่โด่งดังไปทั่วโลกซึ่งก็มีบริการที่เมืองคุนหมิงให้เก้งกวางน้อยบอบบางอย่างเราให้ฮีลร่างจากการไปตะลุยป่าฝ่าเขามาหลายวันได้เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มอร่อย ๆ ชมสไตล์เพจ Gogogeng และนั่งมองบาริสต้าน่ารัก ๆ สักพักก่อนจะเดินทางไปหาที่ถ่ายรูปสวย ๆ กันต่อที่โรงงานยางคุนหมิง (Kunming Rubber Factory) เพื่อเก็บ IG Spot จ้า

พิกัด: Google Map
โรงงานยางคุนหมิง (Kunming Rubber Factory)
ตอนทำข้อมูลก็งง ๆ ว่านางคืออะไรแน่ พอมาถึงก็ถึงบางอ้อ คือหากสังเกตตั้งแต่ Spring City 66 นั้น เอมรู้สึกว่าคุนหมิงเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมดีไซน์เก๋เยอะมาก ๆ ครับ และ Former Kunming Rubber Factory Renovation ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งพอเดินเข้าไปในบริเวณตึกดังกล่าวก็จะมีร้านอาหาร คาเฟ่ และพื้นที่ที่ผู้คนชอบมาถ่ายรูปกัน อ้อ ตึกที่เห็นในรูปเป็นตึกที่สร้างใหม่นะครับ สมัยก่อนตรงนี้เป็นโรงงานยางที่ปิดกิจการลงเมื่อปี 1950 ครับ

ความน่ารักของที่นี่คือเราจะพบกับไลฟ์สไตล์วัยรุ่นสมัยใหม่ของคนจีนที่มาถ่ายรูป มาเก็บ Vibe แบบชิค ๆ และตอนเราไปก็เจอเด็ก ๆ เล่นบอร์ดกันเก่งมาก จริง ๆ ตรงนี้มีคาเฟ่ด้วยนะ แต่ว่าเราจิบกาแฟมาแล้วเลยพอก่อน มาเก็บภาพสวย ๆ มาฝากทุกคนแทน และหลังจากนี้เราจะไปต่อกับอีกหนึ่งแลนด์มาร์คกับสวนสาธารณะชุ่ยหูครับ อ่ะ โบก Taxi แล้วตามเอมมาเลย

- การเดินทาง: เราใช้บริการ Taxi ในเมืองเลยครับ
- พิกัด: https://goo.gl/maps/SFDLhJ4vjcSvH2g1A
สวนสาธารณะชุ่ยหู (Cuihu Park)
ทะเลสาบและสวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในคุนหมิงครับ สวนสาธารณะชุ่ยหูจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองคุนหมิงโดยหันหน้าไปทางมหาวิทยาลัยยูนนาน นอกจากชื่อเรียกว่า “ชุ่ยหู” แล้วบ้างก็เรียก ”ทะเลสาบมรกต” หรือ “หยกแห่งคุนหมิง” ครับ

จุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวคุนหมิงแห่งนี้คือพื้นที่ของเขาช่างแสนกว้างใหญ่ครับ แถมค่าเข้าก็ฟรีเดินสวย ๆ เข้าประตูมาสูดอากาศบริสุทธิ์จากพรรณไม้นานาพันธุ์ ใครอยากนั่งพักปล่อยจอยก็มานั่งชมหงส์ชมเป็ดชมห่าน นั่งแก้เมื่อยนาน ๆ ก็ได้บรรยากาศ Kunming’s Vibe ไปอีกแบบ อ่ะ เก็บภาพบรรยากาศกันจุใจแล้วเอมขอพาเพื่อน ๆ ย้อนไปเดินเล่นแถว ๆ ไฮไลท์ที่เที่ยวสวย ๆ ใกล้ ๆ โรงแรมที่เราพักกันบ้างดีกว่าครับ

- การเดินทาง: สามารถนั่ง Metro มาลงแถว ๆ Cuihu North Road ได้ครับ แต่อย่างที่บอก เรียก Taxi ก็ไม่กี่บาทเด้อ
- พิกัด: https://goo.gl/maps/Tky8WNiq9f7ni4hS7
ประตูม้าทองไก่มรกต (Golden Horse and Jade Cock Gate หรือ Jinma Biji)
ซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่มรกต ตั้งอยู่ตระหง่านท้าทายสายตาบนถนนเส้นเก่าแก่ที่สุดของเมืองคุนหมิง (อายุ 400 ปี) และมีชื่อเรียกภาษาจีนว่าจินหม่าและปี้จี หลัก ๆ แล้วบริเวณนี้ก็จะเป็นเหมือนเสาชิงช้าบ้านเราครับ มีร้านอาหาร มีห้างสรรพสินค้ารายล้อม เป็นการอยู่ร่วมกันของความเก๋าของสถาปัตยกรรมโบราณที่เข้ากันกับอาคารสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวซึ่งเอมรู้สึกว่าเมืองจีนทำได้ดีในเรื่องสร้างสิ่งใหม่แต่ไม่ทิ้งสิ่งเก่าครับ

บริเวณซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่มรกตนั้นสามารถมาเที่ยวได้ทั้งวันนะครับ ซึ่งหากเอมแนะนำนั้น ใครอยากมาตอนเช้าก็สามารถมาหาอาหารเข้าอร่อย ๆ รับประทานแบบเอมได้ (ร้านโจ๊กที่เอมถ่ายมาฝากอร่อยนะ อยู่บริเวณซุ้มประตูเลยครับ) อ่ะ อิ่มท้องกันแล้ว เราไปเดินช้อปปิ้งกันกับปลายทางสุดท้ายแห่งทริปนี้นะ

- การเดินทาง : เดินจากโรงแรมได้ครับ
- พิกัด: https://goo.gl/maps/bhX8yLpRH6r4kdF5A
- Metro: Dongfeng Square Station
ช้อปปิ้งที่ห้างชุนเชิง (Shuncheng Shopping Center)

Avenue สุดท้ายสำหรับขาช้อปกับโซนศูนย์การค้าชุนเชิง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ห้างชุนเชิง” ที่นี่มีครบจบทุกความต้องการไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า ของกิน ขนม ชา กาแฟ และเป็นแบรนด์สินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วโลกที่ทุกคนรู้จักอยู่แล้วครับ อาทิ ZARA, NARS, FILA, HEY TEA อะไรประมาณนี้

สำหรับเอมเอมมองว่าจุดนี้ของคุนหมิงควรเป็นไม่วันแรกก็วันสุดท้ายของการเดินทางจากเส้นทางแบบที่เอมแนะนำครับ เนื่องจากในกรณีเป็นต้นทริปนั้น เผื่อเราลืมเอาอะไรมาจากไทย ก็สามารถหาซื้อที่นี้ได้เลย หรือกรณีก่อนกลับหากน้ำหนักกระเป๋ายังเหลือแล้วอยากได้ไอเท็มอะไรชิค ๆ ที่นี่ก็เหมาะสำหรับการซื้อของขวัญให้ตัวเองสักชิ้นครับ
การเดินทาง
- หากพัก New Era Hotel เดินมาได้เลย
- Metro: Dongfeng Square Station
Zei Tu Hotpot
ปิดท้ายทริปคุนหมิงกับก๊วนเพื่อนกับหนึ่งในร้านชาบูหม่าล่าแนะนำชื่อว่าร้าน Zei Tu Hotpot ครับ Zei Tu Hotpot เป็นชาบูที่คุ้มมาก ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมงเพื่อน ๆ สามารถทานได้ทุกอย่างที่มีอยู่ในร้านรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งก็จะมีทั้งเนื้อ หมู อาหารทะเล ของหวาน ของทอด น้ำดื่มหลากหลายมากมายในราคาไม่ถึงพันบาทไทยครับ (ปล. พนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่มีความพยายามสูงมากครับ ชมเชย)

การเดินทาง: Metro: Dongfeng Square Station
สรุปทริป คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีลา
เวลาผ่านไปไวมากครับทุกคน การเดินทางกับผองเพื่อนทริปคุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีลา ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ซึ่งตอนจะมาก็แอบรู้สึกว่าจะรอดไหม แต่พอจะกลับไทยดันรู้สึกว่าอยากเที่ยวต่อ 555 ซึ่งสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากลองเที่ยวคุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่ากับเพื่อน ๆ แล้วอยากเก็บครบทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึมซับมรดกทางวัฒนธรรมและจอย ๆ กับความศิวิไลซ์ในทริปเดียวแบบครบเอมก็แนะนำว่ามาจบกับทริปคุนหมิงบินตรงจากดอนเมืองกับแอร์เอเชียได้เลยจ้า

- #RevisitTheBeautifulChina
- #แอร์เอเชียตัวจริงเรื่องบินจีน #ไปจีนกับแอร์เอเชีย
- #airasiatravel #airasiasuperapp
6 thoughts on “รีวิวคุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีลา 6 วัน 5 คืน แบบละเอียดเที่ยวตามได้เลย”
สวยจังครับ ดูแล้วอยากไปมากๆ
จะรบกวนขอคอนแทค รถเช่าแบบเหมา จากลี่เจียง ไป แชงกรีล่า ได้ไหมค๊า
ไม่ทราบว่าตอนนี้ได้ contract หรือยังคร้าบผม
สวัสดีค่ะ ตอนไปมีใครสื่อสารจีนได้ด้วยไหมคะ หรือใช้แอพทรานสเลทตลอด? กำลังดูๆ ว่าจะไปเอง แต่กลัวสื่อสารไม่รู้เรื่องนี่แหละค่ะ
แอพแปลภาษาอย่างเดียวเลยคร้าบผม
สวัสดีค่ะ รีวิวได้ละเอียดยิป อ่านตามเพลินเลยค่ะ รบกวนขอ คอนแทค Local Guide ได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ