หลีเป๊ะ เส้นทางใหม่จากเมืองตรัง
เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่เคยไปเที่ยวหลีเป๊ะอาจจะงง เพราะปกติแล้วการไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูลนั้น นักท่องเที่ยวต้องเดินทางจากท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูลเพื่อออกเดินทางสู่เกาะดังกล่าว เอาจริง ๆ มันก็เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างกินเวลาแบบหมดไปหนึ่งวันเลยทีเดียวครับ ส่วนวันนี้ โกโกเก้ง ขอพาเพื่อน ๆ ออกเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะด้วยเส้นทางใหม่ในทริป Love Andaman ทริปนี้ครับ
สารบัญ
Short รีวิว ทริปเกาะหลีเป๊ะจากตรัง
- บินจากกรุงเทพ ลงตรัง
- จากท่าเรือปากเมงตรังใช้เวลาสองชั่วโมงถึงหลีเป๊ะ
- เหมาะสำหรับคนเวลาน้อย และอยากเที่ยวตรังต่อ
- เราใช้บริการทริปนี้ผ่าน Love Andaman ครับ
Plan ทริปเกาะหลีเป๊ะเส้นทางใหม่จากตรัง
ต้องบอกก่อนว่าจริง ๆ แล้วทริปนี้เราเที่ยวทั้งเกาะหลีเป๊ะ และเกาะกระดานของจังหวัดตรังต่อ ๆ กันเลยนะครับ ทว่าในส่วนของการรีวิวนั้น เราจะขออนุญาตแยกเป็น Part ของเกาะหลีเป๊ะ และเกาะกระดาน (ซึ่งทั้งสองที่ล้วนแล้วเดินทางจากจังหวัดตรัง) เพื่อไม่ให้รีวิวแน่นจนเกินไปแล้วเพื่อน ๆ จะไม่อยากอ่านกันด้วยนะ อิ๊ ๆ
วันที่ 1 กรุงเทพสู่ตรัง
- ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร สู่กระบี่ ต่อรถมาตรัง
- เช็คอินโรงแรมเรือรัษฎา
- มื้อเย็นที่ Sand Whitings Restaurant & Bar
วันที่ 2 ทัวร์ One Day Trip เกาะหลีเป๊ะ
- อาหารเช้าที่โรงแรมเรือรัษฎา
- เดินทางสู่ท่าเรือ Love Andaman ปากเมง จังหวัดตรัง
- แวะชายหาด Zodiac คาเฟ่และบาร์ชื่อดัง
- ดำน้ำที่ร่องน้ำจาบัง
- ถ่ายรูปที่หมู่เกาะหินงาม
- กลับเมืองตรัง
- มื้อเย็นที่ Lion’s Tale
- กลับโรงแรมเรือรัษฎา พักผ่อน
วันที่ 3 แยกย้าย
- จะแยกย้ายกลับบ้าน หรือจะไปเที่ยวตรังกันต่อก็ได้นะครับ
วันที่ 1 จากกรุงเทพ สู่ตรัง
พวกเรารวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เช้าตรู่ที่หน้า Gate ของสายการบิน VietJet ที่มีปลายทางไปที่จังหวัดกระบี่ครับ สำหรับทริปนี้นั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 9 – 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา และเหมือนว่าเป็นช่วงวันหยุดยาว ดังนั้นที่สนามบินจึงมีคนมาใช้บริการเยอะมาก ๆ เลยนะ แต่พี่ ๆ ทั้งในส่วนของ VietJet และสนามบินสุวรรณภูมิก็เคร่งครัดในเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคนดีครับ (แต่คนเยอะจริง ๆ นะ)
พอมาถึงจังหวัดกระบี่ปุ๊บ เราก็เดินทางสู่จังหวัดตรังกันนะครับ ซึ่งจากกระบี่นั้นจะใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1.30 ชั่วโมง แต่ว่าวันแรกนั้นเราไม่ได้มีแพลนในการเดินทางท่องเที่ยวใด ๆ ยกเว้นไปเช็คอินที่โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรังเพื่อพักผ่อน ดินเนอร์กรุบกริบในเมืองเล็กน้อย ก่อนออกเดินทางกับพี่ ๆ Love Andaman ในวันต่อไปนั่นเองครับ และหลังจากขึ้นรถปุ๊บโกเก้งก็หลับปั๊บดังนั้นไม่นานนักก็มาโผล่ที่โรงแรมที่ตรังแว้ววว!
วันที่ 1 เช็คอินโรงแรมเรือรัษฎา
โรงแรมเรือรัษฎานี่เมื่อมาถึงแล้วก็พอเข้าใจได้เลยว่าจะต้องเป็นโรงแรมสำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของผู้คนที่มาเยือนจังหวัดตรังแน่ ๆ จากองค์ประกอบจากสถานที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมือง (ใกล้ ๆ Robinson ตรังสุด ๆ) จำนวนห้องที่เยอะมาก พื้นที่ที่กว้างขวาง Facility ที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นห้องประชุม สระว่ายน้ำ Fitness สปาของ Let’s Relax เรียกได้ว่าครบครันเลยครับ
สาเหตุที่เรียกว่าโรงแรมเรือรัษฎา (Rua Rasada Hotel) นั้นเราว่าน่าจะเพราะโรงแรมมีดีไซน์คล้าย ๆ กับตัวเรือเลยครับ ซึ่งเราเชื่อว่าหากทางโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการแบบ 100% แล้วน่าจะมีจุดถ่ายรูปดี ๆ ให้เพื่อน ๆ ที่มาเที่ยวแน่นอนเลยครับ
สำหรับทริปนี้ เราเข้าพักกันที่ห้อง Superior Room ของโรงแรม Rua Rasa Hotel ครับ ห้อง ๆ นี้มากับพื้นที่ 26 ตารางเมตร ลักษณะห้องนั้นจะเป็นแนว Modern สมัยใหม่ครับ มีระเบียงห้องที่กว้างมาก แต่ไม่มีที่ตากผ้ามาให้นะครับซึ่งเราแอบเสียดายนิด ๆ เพราะเรามาทริปเกาะเลยเกียมเสื้อผ้าเปียกเน่าเรียบร้อยจ้า
สำหรับห้องน้ำในโรงแรมเรืออัษฎาที่เราพักนั้นไม่ได้มีอ่างอาบน้ำนะครับ แต่เขาก็แยกโซนเปียกโซนแห้งมาไว้อย่างเรียบร้อยไม่ต้องเป็นห่วง นอกจากนั้นในห้องน้ำก็มีครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมทาตัวให้เสร็จสรรพพร้อมใช้สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมอะไรมาอย่างเราเป็นต้น เรียกได้ว่าโอเคเลย เอาล่ะ หลังจากเข้าห้องอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วก็เตรียมไปดินเนอร์กันที่ร้าน Sand Whitings Restaurant & Bar ซึ่งห่างจากโรงแรมไม่เกิน 10 นาทีขับรถครับ
ขอแถมอีกหนึ่งว่าโรงแรมเรืออัษฎานั้นมี Let’s Relax Spa ที่มาตรฐานเป๊ะปังด้วยนะ ใครสายนวดแนะนำให้ไปหวดเลยจ้า
วันที่ 1 มื้อเย็น Sand Whitings Restaurant & Bar
Sand Whitings Restaurant & Bar เป็นร้านอาหารแนว Bar & Bistro แนวหรูหรา ฟู่ฟ่าน่านั่งชิลกับคนรู้ใจในยามค่ำคืนที่เปิดใหม่ได้ไม่นาน (ปี 2021) ในเมืองตรัง อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์การทำร้านอาหารอย่างยาวนานและขึ้นชื่อจากร้านปูม้าปาร์ตี้ซึ่งเป็นร้านอาหารทะเลขึ้นชื่อของเมืองตรัง จึงรับประกันได้ว่าร้านนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนครับ
ดีไซน์ของร้าน Sand Whitings นั้นน่าจะจากชื่อของตัวร้านที่แปลว่าปลาทรายครับ ดังนั้นบรรยากาศภายในร้านจะให้ฟีลเหมือนเราอยู่ในท้องทะเลเพราะภาพวาดตามฝาผนังจะเต็มไปด้วยลวดลายของน้ำทะเล มีภาพวาดของบรรยาเรือสมุทรตกแต่งอยู่เป็นระยะ ภายในร้านที่เปิดบริการตอนที่เราไปนั้นมีอยู่ 2 ชั้น ออกแนวกึ่ง ๆ ไพรเวท ที่นั่งค่อนข้างเยอะ มีดนตรีสด และ Bar Cocktail ด้วยครับ
มาต่อกันที่เมนูอาหารครับ ที่เราอยากแนะนำมาก ๆ นั้นก็จะเริ่มจาก ปลาทรายทรงเครื่อง ไหน ๆ มาร้านอาหารประจำเมืองตรังที่ชื่อร้านจากปลาทรายก็ต้องสั่งปลาทรายทอดสิครับ ปลาทรายทรงเครื่องของกรอบของร้านนี้คือกรอบ กรุบ อร่อยถึงเครื่องมาก ๆ น่าเสียดายที่ช่วงที่เราไปนั้นเขาไม่ให้ดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ขาดอรรถรสไปพอสมควรเลยล่ะ
มาจัดกันต่อที่ กุ้งลายเสือเทอร์มิดอร์ กุ้งลายเสือย่างที่โปะชีสที่เบิร์นนิด ๆ ก่อนมาเสิร์ฟ เนื้อกุ้งแน่น ฉ่ำ เด้ง สัมผัสได้ถึงความสดบวกความหวานมันของชีสนั้นทำให้เรารักเมนูนี้มาก ๆ เลยครับ ถัดมาก็จะเป็นปลาทรายซาชิมิ จานเล็ก ๆ แต่เก๋นะ เราว่าเป็นเมนูที่กำลังพอดี เนื้อปลาคือดีสดจริง ๆ นอกจากนั้นก็จะมีทั้งพวกเนื้อย่างจิ้มแจ่ว สปาเก็ตตี้ซอสกุเลาเค็ม ซีซ่าสลัดซอสปลากุเลาเค็มที่โดยรวมแล้วรสชาติโอเคเลยครับ และสำหรับราคานั้นก็อยู่ที่ประมาณ 150 ขึ้นไปต่อจานครับผม
เอาล่ะ อิมหมีพลีมันกันแล้วก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนที่โรงแรม Rua Rasada Hotel เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะกันนะครับ
วันที่ 2 ทัวร์ One Day Trip เกาะหลีเป๊ะ
เช้าวันใหม่สดใสซาบซ่า เราตื่นมารับประทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารของโรงแรมเรืออัษฎาครับ ซึ่งไลน์อาหารเช้าของโรงแรมเรืออัษฎานั้นก็ครบถ้วนกระบวนความของอาหารเช้าครับ จุดเด่นที่เพิ่มเติมก็คือมีขนมจีนน้ำยาปู แกงไตปลา มีข้าวยำ ปาท่องโก๋ และขนมพื้นบ้านต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างเสริมอรรถรสยามเช้าได้เป็นอย่างดีเลยครับ อย่างไรก็ตามเราต้องขอพูดไว้ก่อนนิดนึงว่าอาหารที่ตรังนี้ติดหวานมากครับ
หลังจากนั้นเราก็จะออกเดินทางจากโรงแรมไปสู่ท่าเรือปากเมงโดยจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีนะครับ โดยครั้งนี้เราได้ใช้บริการเรือนำเที่ยวของทีม Love Andaman ซึ่งก่อนจะขึ้นเรือนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องรับฟังบรีฟ ข้อกำหนด กฏต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติร่วมกันเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวเราเองและสิ่งแวดล้อมครับ
ระหว่างรอบรีฟนั้น ใครที่ทานอาหารไม่อิ่มก็สามารถมาหาของกินเพิ่มได้ที่ท่าเรือของ Love Andaman นะครับ ชา กาแฟ ปาท่องโก๋ใด ๆ มีหมดจ้า
หลังจากเข้าใจข้อกำหนดกฎกติการ่วมกันแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางจากท่าเรือปากเมง จังหวัดตรังด้วยเรือ Speed Boat ลำใหญ่แบบ 4 เครื่องยนต์ โดยจุดแวะแรกของเราบนเกาะหลีเป๊ะนั้นคือ Zodiac Bar ครับ
วันที่ 2 Zodiac Bar
สิ่งที่ดีงามของ Zodiac Bar นั่นหรือก็คือมุมถ่ายรูปต่าง ๆ เยอะมาก แถมน้ำทะเลบริเวณนี้ก็สวยและใสมาก ผนึกกำลังกับทรายขาวเนียนละเอียดนุ่มจึงเป็นการเปิดทริปเกาะหลีเป๊ะที่ดีงามมาก ๆ ในวันนี้เลย
เราสามารถจิบกาแฟ สั่งเครื่องดื่มในบรรยากาศแบบชาวเกาะที่แท้ทรูเพราะที่ร้านเขาตกแต่งเหมือนบ้านชาวเลเลยล่ะ (ราคาเครื่องดื่มค่อนข้างแรงนะครับ เกียมเงินไว้นิดนึง)
ซึ่งหลังจากเต็มอิ่มกับมุมถ่ายรูปแบบฟิน ๆ แล้วก็เตรียมไปดำนำกันต่อกับหนึ่งในไฮไลท์ของทริปเกาะหลีเป๊ะกับ “ร่องน้ำจาบัง” ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่สวยขึ้นชื่อของเกาะหลีเป๊ะครับ
วันที่ 2 ร่องน้ำจาบัง
ร่องน้ำจาบัง จะตั้งอยู่ใกล้เกาะอาดังที่อยู่ระหว่างเกาะราวีกับเกาะหลีเป๊ะ จุด ๆ นี้เป็นจุดดำน้ำตื้นเพื่อชม “ปะการังเจ็ดสี” หรือปะการังอ่อนหลากสีอันโด่งดังและเป็นปลายทางที่สายดำน้ำหลายคนใฝ่ฝันจะมาอย่างไรก็ตามกระแสน้ำบริเวณนี้คือแรงมากครับ หากว่ายน้ำไม่แข็งหรือร่างกายไม่พร้อมอย่างไรก็ก็ควรแจ้งพี่ ๆ ทีมงาน Love Andaman เพื่อให้พี่ ๆ เขาพาไปชมได้อย่างปลอดภัยและประทับใจครับ
แม้ว่าร่องน้ำจาบังจะขึ้นชื่อเรื่องน้ำเชี่ยว แต่หากมากับ Love Andaman ก็ไม่ต้องกลัวจ้า เพราะพี่ ๆ เขาดูแลดีมาก เด็กเล็ก ๆ ยังลงไปดำน้ำด้วยกันได้เลย
เอาล่ะ ดำน้ำกันเหนื่อย ๆ ก็เริ่มหิวกันแล้วใช่ไหมล่ะ หลังจากฟินกับปะการังสวย ๆ แล้วก็ไปก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวันกันที่เกาะราวีครับ ตามปกติแล้วหากเราไม่ได้มากับทีม Love Andaman นั้นจะต้องซื้ออาหารและเครื่องดื่มบนเกาะกินกันเองนะครับ แต่ในกรณีของเราที่มากับพี่เลิฟแล้วนั้นบอกเลยว่าครบทั้งคาวหวาน ครบทั้งคุณค่าทางโภชนาการแถมน้ำดื่มและขนมก็ยังเติมได้เรื่อย ๆ ด้วยนะ
ยกตัวอย่างเมนูอาหารวันนี้ของเราก็จะมีแกงส้มซึ่งอร่อยมากครับ กินคู่กับผัดผัก ไข่เจียวและ Seafood รสแซ่บ หลังจากนั้นก็ไปกินเค้กชาไทยอร่อย ๆ ล้างปาก กระดกน้ำอัดลมสักสองสามแก้วก่อนจะคว้าลูกอมมากันเพิ่มความสดชื่น บอกเลยว่า ทริปหลีเป๊ะ กับ Love Andaman ครั้งนี้มีจุกกันแน่นอนครับ ส่วนตัวแล้วเราแนะนำว่าให้รีบกินแล้วรีบพักนะครับจะได้มีเวลาย่อยก่อนไปเที่ยวกันต่อคร้าบ
เกาะหินงาม
เอ่าล่ะ หลังจากที่หนังท้องตึงเราจะไม่ปล่อยให้หนังจาหย่อน รีบทะยานขึ้นเรือไปที่จุดหมายปลายทางต่อไปซึ่งนั่นก็คือเกาะหินงามนั่นเองครับ เกาะหินงามนั่นก็ตามชื่อของเขาเลย เพราะว่าเขาเป็นเกาะที่ไม่มีหาดทราย แต่กลับเต็มไปด้วยหินสีดำเงางาม ยิ่งเวลาสะท้อนกับน้ำและแสงอาทิตย์ด้วยแล้วยิ่งเป็นความงดงามที่หาดูได้ยากในประเทศไทยเลยครับ
อย่างไรก็ตามก็ต้องขอเตือนกันไว้หน่อยว่า เมื่อไปเที่ยวแล้วก็อย่าพยายามเอาหินมาตั้ง ๆ แบบที่นักท่องเที่ยวชอบทำกันในสมัยก่อนนะครับ ส่วนสาเหตุนั้นเพราะว่าเราอาจทำให้น้องหินแตกยามที่ร่วงหล่นลงมาและส่งผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศน์ของพื้นที่บริเวณนี้ได้นะครับ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทางทีม Love Andaman คอยเตือนเราเป็นระยะไม่ให้ประมาทด้วยนะ น่ารักที่สุดเลย
และส่งท้ายวันเดย์ทริปที่เกาะหลีเป๊ะนี้ เราจะไปแวะกันอีกหนึ่งจุดดำน้ำนะครับ ซึ่งเป็นจุดที่มีปลาสิงโตเยอะมาก ๆ แถมเหล่าปะการังก็รอดจากการฟอกขาวด้วย นับว่าเป็นโชคดีของน้องปลาตัวน้อย ๆ และคนไทยมาก ๆ ที่รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ธรรมชาติดั่งกล่าวมาได้ครับ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่นักท่องเที่ยวอย่างเราแล้วล่ะที่ต้องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึกและไม่ทำลายระบบนิเวศน์ดังกล่าวทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจนะครับ เอาล่ะได้เวลาบอกลาเกาะหลีเป๊ะ เกาะราวี และเดินทางขึ้นสู่ฝั่งเพื่อไปรับประทานอาหารค่ำกันที่ร้าน Lion Tale ครับ
Lion’s Tale เป็นร้านอาหารสไตล์ Italian Twisted ที่มีการนำวัตถุดิบท้องถิ่นหลาย ๆ อย่างมาเบลนด์อินเข้ากับอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนออกมาเป็นเมนูน่ากินหลากหลายเมนูภายใต้การตกแต่งร้านที่เห็นปุ๊บก็เราก็นึกว่ายกทองหล่อ ยกสีลม ยกสาทร หรือยก Bar & Restaurant ย่านชิค ๆ จากกรุงเทพมหานครมาไว้ที่จังหวัดตรังเลยล่ะ
สำหรับรายการอาหารที่เราชิมไปทั้งหมดก็จะมี สลัดปูมะม่วง อโวคาโด, Chicken and waffle, รีซอตโตต้มยำกุ้ง, หมูเกาหยุก, ปลากระพงย่างซอสมะนาว, Lobster bisque, Flat iron เทพทาโร และกล้วยทอดจากไลออนส์ เทลซึ่งเราต้องขอบอกก่อนว่าหลาย ๆ เมนูนั้นได้มีการประยุกต์วัตถุดิบท้องถิ่นแล้วปรุงออกมาได้อย่างดีมาก ๆ เลยครับ ติดอย่างเดียวที่เรามากินดึกไปหน่อยทำให้เก็บดีเทลมาเม้าได้ไม่มากเท่าไร ขออภัยด้วยครับ
สรุปทริปเกาะหลีเป๊ะเส้นทางใหม่จากตรัง
ทริปเกาะหลีเป๊ะเส้นทางใหม่จากตรังนั้นเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ไม่ต้องเดินทางหลายรอบเพราะเราสามารถบินไปลงที่จังหวัดตรัง และจากจังหวัดตรังก็ใช้เวลาไปท่าเรือปากเมง 45 นาที และใช้เวลาบน Speed Boat 2 ชั่วโมง ซึ่งคนน้อยกว่าท่าเรือปากบาราที่สตูลและสามารถแวะท่องเที่ยวกันต่อในจังหวัดตรงได้ด้วยครับ
ข้อมูล: Love Andaman
- โทร: 076-390250/ 081-9190101/
- 084-0539426 / 090-9480888
- เวลาทำการ: (09.00 – 20.00 น.)
2 thoughts on “รีวิว ทริปเกาะหลีเป๊ะ เส้นทางใหม่จากเมืองตรัง”
น่าไปมากๆเลยครับ
งุ้ยย รักพี่เติร์กกกก